การกระตุ้นไฟฟ้าเพื่อลดอาการปวดเกร็ง (Electrotherapy for Spasticity and Associated Pain) เน้น NMES/FES
ภาวะกล้ามเนื้อเกร็ง (Spasticity) เกิดจากความเสียหายของสมองหรือไขสันหลังที่ทำให้สัญญาณ “เบรก/ผ่อนคลาย” สูญเสียสมดุล ส่งผลให้กล้ามเนื้อหดตัวค้าง แข็ง ควบคุมยาก และมักก่อให้เกิดความเจ็บปวด
การกระตุ้นไฟฟ้าด้วย NMES (Neuromuscular Electrical Stimulation) หรือ FES (Functional Electrical Stimulation) เปรียบเสมือน “ครูฝึกไฟฟ้า” เพื่อสอนรูปแบบการทำงานของกล้ามเนื้อใหม่ โดยมี 2 กลยุทธ์หลักคือ
- สั่งให้กล้ามเนื้อฝั่งตรงข้ามทำงาน เพื่อยับยั้งกล้ามเนื้อที่เกร็ง (เหมือนไม้กระดก—อีกฝั่งทำงาน ฝั่งเกร็งต้องผ่อน)
- สั่งให้กล้ามเนื้อที่เกร็งทำงานซ้ำ ๆ จนล้าและคลายตัว
ผลลัพธ์คือช่วยลดความตึงและปวด ทำให้การยืด การเคลื่อนไหว และการทำกิจกรรมในชีวิตประจำวันง่ายขึ้น
1) หลักการทำงานและกลไก (Principles and Mechanism)
สำหรับแพทย์และพยาบาล
- Pathophysiology of Spasticity: ส่วนหนึ่งของ UMN syndrome จากความเสียหายของ descending pathways ทำให้เกิดความไม่สมดุล excitatory/inhibitory ที่ไขสันหลัง → velocity-dependent hypertonia และ hyperreflexia ของ stretch reflex
- Primary Modality: NMES/FES เป็นแกนหลัก
- Mechanisms of Action for Spasticity Reduction
- Reciprocal Inhibition (การยับยั้งต่างตอบ) — นิยมที่สุด
- หลักการ: กระตุ้น antagonist ของกล้ามเนื้อที่เกร็ง (เช่น biceps เกร็ง → กระตุ้น triceps)
- กลไก: Ia afferents กระตุ้น Ia inhibitory interneuron → ปล่อย GABA ยับยั้ง α-motoneuron ของกล้ามเนื้อที่เกร็ง → คลายตัวชั่วคราว
- Agonist Muscle Stimulation (กระตุ้นกล้ามเนื้อที่เกร็งโดยตรง)
- Muscular Fatigue: หด-คลายซ้ำจนล้า → คลายตัว
- Recurrent Inhibition (ผ่าน Renshaw cells): กระตุ้น α-motoneuron → feedback กระตุ้น Renshaw (inhibitory) → ลดความตื่นตัวของมัดนั้น
- Sensory Stimulation (ระดับต่ำไม่ให้หดตัว): ปรับ pattern การรับความรู้สึก ลด spinal hyperexcitability
- Reciprocal Inhibition (การยับยั้งต่างตอบ) — นิยมที่สุด
สำหรับผู้ป่วย
- สั่งงานกล้ามเนื้อฝั่งตรงข้าม: ติดแผ่นกระตุ้นที่กล้ามเนื้อฝั่งตรงข้ามมัดที่เกร็ง เมื่อหดตัว จะ “สะกิด” ให้มัดที่เกร็งผ่อนคลาย
- ทำให้มัดที่เกร็งเหนื่อย: กระตุ้นให้หด-คลายเป็นจังหวะเหมือนออกกำลังกาย จนยอมคลายตัว
2) ข้อบ่งชี้และข้อห้ามใช้ (Indications and Contraindications)
สำหรับแพทย์และพยาบาล
ข้อบ่งชี้ (Indications):
- Spasticity จากรอยโรคระบบประสาทส่วนกลาง
- Stroke (CVA): biceps/wrist flexor spasticity, FES แก้ foot drop
- Spinal Cord Injury (SCI): adductor/hamstring spasticity
- Traumatic Brain Injury (TBI), Multiple Sclerosis (MS), Cerebral Palsy (CP)
- เป้าหมายการรักษา
- ลด muscle tone
- เพิ่ม passive/active ROM
- ลดความเจ็บปวดที่สัมพันธ์กับเกร็ง
- ปรับ motor control และ facilitate functional tasks (ปล่อยมือ เดิน ฯลฯ)
ข้อห้ามใช้ (Contraindications):
- เด็ดขาด: pacemaker/ICD, DVT, active malignancy, pregnancy over trunk, unstable fracture
- พิจารณาเป็นพิเศษ: severe contracture (ข้อต่อยึดจนขยับไม่ได้), severe osteoporosis (เสี่ยงกระดูกหัก), unstable ICP, autonomic dysreflexia (SCI), ผู้ป่วยให้ความร่วมมือไม่ได้
สำหรับผู้ป่วย
- เหมาะกับใคร: ผู้ป่วย Stroke, SCI/TBI, MS/CP ที่มีแขน-ขาเกร็ง เป้าหมายเพื่อผ่อนคลาย ยืดง่าย ลดปวด และทำกิจกรรมได้ดีขึ้น
- แจ้งผู้รักษาเสมอ: หากมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ ตั้งครรภ์ มะเร็ง ลิ่มเลือด หรือข้อต่อยึดติดมากจนขยับไม่ได้
3) แนวทางการรักษาและการใช้งาน (Application Guidelines)
สำหรับแพทย์และพยาบาล
- Assessment: ระดับเกร็ง (Modified Ashworth Scale), ROM, กล้ามเนื้อ, เป้าหมายเชิงกิจกรรม
- Electrode Placement
- Reciprocal Inhibition: วางบน motor point ของ antagonist
- Agonist Stimulation: วางบน motor point ของ spastic muscle
- Parameter Selection (NMES/FES)
- Pulse duration/width: 200–400 μs (เพียงพอสำหรับ motor nerve)
- Frequency: 25–50 Hz เพื่อสร้าง smooth tetanic contraction
- On/Off time (duty): อย่างน้อย 1:2 หรือ 1:3 (เช่น On 5s/Off 10s หรือ On 10s/Off 20s) เพื่อกันล้า
- Ramp up/down: 1–3 s เพื่อหลีกเลี่ยง stretch reflex และเพิ่มความสบาย
- Intensity: จนเกิดการหดตัวที่มองเห็นได้ ชัดเจน นุ่มนวล ไม่เจ็บ และก่อให้เกิดการเคลื่อนไหวของข้อต่อ
- Treatment Protocol
- Duration: 20–30 นาที/ครั้ง
- Integration with Therapy:
- กระตุ้นไฟฟ้าคู่กับการยืด (ทำช่วง Off)
- FES เชิงหน้าที่: เช่น กระตุ้น tibialis anterior ตามจังหวะก้าวเดิน เพื่อแก้ foot drop
สำหรับผู้ป่วย
- ขั้นตอนการรักษา
- นักกายภาพบำบัดหามัดกล้ามเนื้อเป้าหมายและติดแผ่นอิเล็กโทรด
- ตั้งค่าเครื่องและเพิ่มความแรงอย่างค่อยเป็นค่อยไป
- คุณจะรู้สึกว่ากล้ามเนื้อ “ถูกสั่งให้ทำงาน” เอง—ตึงขึ้น-คลายลงเป็นจังหวะ โดยไม่เจ็บ
- สิ่งสำคัญ: ระหว่างเครื่องทำงาน ผู้บำบัดจะช่วยยืด หรือให้คุณออกแรงเคลื่อนไหวตามจังหวะ เพื่อ “สอน” สมองและกล้ามเนื้อไปพร้อมกัน
- ใช้เวลาประมาณ 20–30 นาที
สรุป
Electrotherapy (NMES/FES) เป็นเครื่องมือทรงพลังในการลดเกร็งและปวดที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่ใช่การรักษาที่ทำให้หายขาด ผลลัพธ์ดีที่สุดเมื่อใช้อย่างสม่ำเสมอ ภายใต้การดูแลผู้เชี่ยวชาญ และผนวกในโปรแกรมฟื้นฟูแบบองค์รวมที่ครอบคลุมการออกกำลังกาย ยืดเหยียด และฝึกทำกิจกรรม
ข้อความนี้จัดทำขึ้นเพื่อให้ข้อมูลทางการแพทย์เบื้องต้น ไม่สามารถใช้ทดแทนคำแนะนำ การวินิจฉัย หรือการรักษาจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญหรือนักกายภาพบำบัดได้
อัปเกรดโรงพยาบาลของคุณด้วยนวัตกรรมเครื่องมือแพทย์ล่าสุด
เพิ่มคุณภาพการรักษา ยกระดับความปลอดภัย และสร้างอนาคตสุขภาพที่ยั่งยืน