ทางการแพทย์และการวิจัย

ธุรกิจคลินิก

ธุรกิจฟิตเนส

ธุรกิจอื่นๆ

จุดเด่นของ ACCUNIQ
- วัดองค์ประกอบของร่างกายแยกส่วน (Segmental) 5 ส่วน เเขนซ้าย-ขวา ขาซ้าย-ขวา และลำตัว ด้วยขั้วไฟฟ้า(Electrode) 8 จุด ทุกรุ่น
- ใช้ความถี่ไฟฟ้า (Muti-Frequency) ทุกรุ่น
- วัดองค์ประกอบของร่างกายพื้นฐาน ได้แก่ ไขมัน กล้ามเนื้อ กระดูก น้ำ โปรตีน ไขมันช่องท้อง อายุร่างกาย คะแนนร่างกาย ประเภทรูปร่าง เส้นรอบเอว รอบเอวต่อสะโพก อัตราการเผาผลาญ ดัชนีมวลกาย ฯลฯ
- วิเคราะห์องค์ประกอบของร่างกายเชิงลึก เช่น พื้นที่ไขมันช่องท้อง มวลไขมันช่องท้อง ภาวะบวมน้ำ การเจริญเติบโตในเด็ก ความสมดุลของกล้ามเนื้อ TDEE น้ำในเซลล์ น้ำนอกเซลล์ ฯลฯ
- วางแผนการออกกำลังกายและโภชนาการ ด้วยคำแนะนำในการเพิ่มกล้ามเนื้อ ลดไขมัน เพิ่ม-ลดน้ำหนักเฉพาะบุคคล
- มีความแม่นยำสูง ผ่านการรับรองมาตรฐานจาก FDA (MDD Class II) CE ISO TUV เป็นต้น
- เลือกเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งไทย เอเชียและ WHO
- แสดงผลที่หน้าจอ และรองรับการใช้งานทั้งภาษาไทย-อังกฤษ
- แยกใบรายงานผลเด็กอายุ 1-17 ปีกับผู้ใหญ่อายุ 18-99 ปี อัตโนมัติ
- บันทึกผลทั้งภายในเครื่อง USB memory ซอฟแวร์และ smart phone ด้วย Accuniq Application
- สามารถเชื่อมต่อกับอุปกรณ์วัดส่วนสูงอัตโนมัติ (Ultrasonic Height Meter)
Why choose us?

ด้านคุณภาพสินค้า
- ACCUNIQ แบรนด์เครื่องวัด/วิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายแบบแยกส่วนแขนซ้าย-ขวา ขาซ้าย-ขวา ลำตัว
- ประมวลผลวัดภายใน 30 วินาที
- ใช้คลื่นความถี่ไฟฟ้าทั้งต่ำและสูงร่วมกันอย่างน้อย 3 คลื่น (Multi Frequency)
- วัดผลผ่านทั้งมือและเท้าด้วยอิเล็คโทรดจำนวน 8 จุด
- เข้าไปวัดจนครบทุกส่วนของร่างกาย จึงจัดอยู่ในกลุ่ม Professional Use ที่มีคุณภาพสูง
- ความแม่นยำสูงถึง 97% เมื่อเทียบกับ DEXA
- ผ่านการค้นคว้าวิจัย ได้รับการรับรองเป็น Medical Device (MDD Class II)
- ซึ่งใช้วิธีการวินิจฉัยแบบ Gold Standard และยังได้รับมาตรฐานสากล (Certifications) ต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาที่ล้ำหน้ากว่าแบรนด์อื่นๆ จนเป็นที่ยอมรับจากหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ
- ได้รับรอบมาตรฐานระดับโลก US FDA, ISO, CE, Etc.
ด้านบริการและทีมงาน
- เป็นตัวแทนจำหน่าย ACCUNIQ อย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่เพียงผู้เดียว
- มีผู้แทนขายครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
- ตอบกลับภายใน 24 ชั่วโมง
- ถึงทุกที่ทั่วประเทศภายใน 48 ชั่วโมง
- มีเครื่องสำรองให้ใช้ระหว่างซ่อม
- เข้าตรวจเช็คตามกำหนด ภายในระยะเวลารับประกัน
ACCUNIQ BC300
- จอแสดงผลสี LCD 7 นิ้ว ระบบปุ่มกด (Keypad)
- ความถี่ไฟฟ้า (Multi-Frequency) 5, 50, 250 kHz
- จุดสัมผัสขั้วไฟฟ้า (Tetra-polar Electrode) 8 จุด (มือ 4 จุด เท้า 4 จุด)
- รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
- เลือกเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งไทย เอเชียและ WHO
- พิมพ์ใบรายงานผลแบบ A4 พร้อมโลโก้หน่วยงาน ด้วยเครื่องพิมพ์ (laser Printer)
- พิมพ์ใบรายงานผลแบบสลิป / กระดาษความร้อน ด้วยเครื่องพิมพ์ (Thermal Printer)
- แยกใบรายงายงานผลเด็กอายุ 1-17 ปีกับผู้ใหญ่อายุ 18-99 ปี อัตโนมัติ
- บันทึกผลในเครื่อง 100,000 ข้อมูล / บันทึกผลเพิ่มเติมใน USB Memory
- บันทึกผลใน Smart Phone ด้วย ACCUNIQ App ทั้ง IOS และ Android
- เชื่อมต่อกับ Manager Software บันทึก จัดการบริหารข้อมูลลูกค้า
- รองรับอุปกรณ์วัดส่วนสูงอัตโนมัติ (Ultrasonic Height Meter)
- มีกระเป๋าพลาสติกกันกระแทกเข้ารูป มีล้อสำหรับเคลื่อนย้ายเครื่อง
- ช่วงน้ำหนัก 10-200 กิโลกรัม / ช่วงส่วนสูง 50-220 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง 10 กิโลกรัม
ACCUNIQ BC380
- จอแสดงผลสี LCD 7 นิ้ว ระบบสัมผัส (Touch Screen) และปุ่มกด (Keypad)
- ความถี่ไฟฟ้า (Multi-Frequency) 5, 50, 250 kHz
- จุดสัมผัสขั้วไฟฟ้า (Tetra-polar Electrode) 8 จุด (มือ 4 จุด เท้า 4 จุด)
- รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
- เลือกเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งไทย เอเชียและ WHO
- พิมพ์ใบรายงานผลแบบ A4 พร้อมโลโก้หน่วยงาน ด้วยเครื่องพิมพ์ (laser Printer)
- แยกใบรายงานผลเด็กอายุ 1-17 ปีกับผู้ใหญ่อายุ 18-99 ปี อัตโนมัติ
- บันทึกผลในเครื่อง 100,000 ข้อมูล / บันทึกผลเพิ่มเติมใน USB Memory
- บันทึกผลใน Smart Phone ด้วย ACCUNIQ App ทั้ง IOS และ Android
- เชื่อมต่อไร้สายกับ Manager Software บันทึก จัดการบริหารข้อมูลลูกค้า
- เรียกดู บริหารจัดการ พิมพ์ผลซ้ำ ได้จากหน้าจอเครื่อง
- รองรับอุปกรณ์วัดส่วนสูงอัตโนมัติ (Ultrasonic Height Meter)
- ช่วงน้ำหนัก 10-270 กิโลกรัม / ช่วงส่วนสูง 50-220 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง 18 กิโลกรัม
ACCUNIQ BC720
- จอแสดงผลสี LCD 8.4 นิ้ว ระบบสัมผัส (Touch Screen) และปุ่มกด (Keypad)
- ความถี่ไฟฟ้า (Multi-Frequency) 1, 5, 50, 250, 550, 1000 kHz
- จุดสัมผัสขั้วไฟฟ้า (Tetra-polar Electrode) 8 จุด (มือ 4 จุด เท้า 4 จุด)
- รองรับการใช้งานทั้งภาษาไทยและอังกฤษ
- เลือกเกณฑ์มาตรฐานได้ทั้งไทย เอเชียและ WHO
- พิมพ์ใบรายงานผลแบบ A4 พร้อมโลโก้หน่วยงาน ด้วยเครื่องพิมพ์ (laser Printer)
- แยกใบรายงายงานผลเด็กอายุ 1-17 ปีกับผู้ใหญ่อายุ 18-99 ปี อัตโนมัติ
- บันทึกผลในเครื่อง 100,000 ข้อมูล / บันทึกผลเพิ่มเติมใน USB Memory
- บันทึกผลใน Smart Phone ด้วย ACCUNIQ App ทั้ง IOS และ Android
- เชื่อมต่อไร้สายกับ Manager Software บันทึก จัดการบริหารข้อมูลลูกค้า
- เรียกดู บริหารจัดการ พิมพ์ผลซ้ำ ได้จากหน้าจอเครื่อง
- รองรับอุปกรณ์วัดส่วนสูงอัตโนมัติ (Ultrasonic Height Meter)
- ช่วงน้ำหนัก 10-270 กิโลกรัม / ช่วงส่วนสูง 50-220 เซนติเมตร
- น้ำหนักเครื่อง 42 กิโลกรัม
คำถามที่พบบ่อย
เครื่องวัดองค์ประกอบร่างกายที่ใช้หลักการ BIA มีแม่นยำจริงหรือไม่?
มีความแม่นยำจริง เพราะหลักการ BIA ได้สอบเทียบค่าทางคลินิกกับเครื่อง DEXA ที่มีความแม่นยำสูง ซึ่งเครื่องวัด/วิเคราะห์องค์ประกอบร่ายกาย ACCUNIQ แบบแยกส่วนแขนซ้าย-ขวา ขาซ้าย-ขวา ลำตัว โดยใช้คลื่นความถี่ไฟฟ้าทั้งต่ำและสูงร่วมกันอย่างน้อย 3 คลื่น (Multi Frequency) วัดผลผ่านทั้งมือและเท้าด้วยอิเล็คโทรดจำนวน 8 จุด เข้าไปวัดจนครบทุกส่วนของร่างกาย มีความแม่นยำสูงถึง 97% เมื่อเทียบกับ DEXA และผ่านการค้นคว้าวิจัย ได้รับการรับรองเป็น Medical Device (MDD Class II) ซึ่งใช้วิธีการวินิจฉัยแบบ Gold Standard และยังได้รับมาตรฐานสากล (Certifications) ต่างๆ รวมทั้งการพัฒนาที่ล้ำหน้ากว่าแบรนด์อื่นๆ
จริงหรือไม่? ที่อายุและเพศไม่มีผลต่อการวัดองค์ประกอบร่างกาย
- ทั้งอายุและเพศเป็นปัจจัยสำคัญของหลักการ BIA
ถ้าไม่สำคัญคงไม่จำเป็นต้องป้อนข้อมูลให้กับเครื่อง แต่การที่เครื่องต้องใช้ข้อมูลพื้นฐานด้านอายุและเพศนั้น ไม่ได้หมายความว่าเครื่องใช้การคำนวณค่าทางสถิติเสมอไป เพราะเครื่องวัดองค์ประกอบร่างกายในปัจจุบันวัดองค์ประกอบต่างๆในร่างกายด้วยกระแสไฟฟ้าอ่อนๆโดยตรงอยู่แล้ว เมื่อมนุษย์มีอายุมากขึ้นมวลไขมันในร่างกายจะมีแนวโน้มที่เพิ่มขึ้นและมวลกล้ามเนื้อจะมีแนวโน้มที่ลดลง (เว้นแต่มีการออกกำลังกายตามอายุที่เพิ่มขึ้น) อายุแต่ละช่วงวัยจึงมีผลต่อน้ำหนักมาตรฐาน ส่วนร่างกายชายและหญิงนั้นมีความแตกต่างกันทางสรีรวิทยา องค์ประกอบต่างๆในร่างกายไม่ว่าจะเป็นมวลไขมัน ปริมาณไขมันในช่องท้อง มวลกล้ามเนื้อ มวลกระดูก โปรตีน น้ำ ฯลฯ จึงมีสัดส่วนที่ต่างกัน ทำให้มีผลต่อการแบ่งเกณฑ์มาตรฐานตามเพศนั่นเอง
ทำไมค่าที่วัดได้จากเครื่องแต่ละยี่ห้อถึงไม่เท่ากัน?
เครื่องแต่ละยี่ห้อนั้นมีหลากรุ่นหลายประเภท หรือแม้รูปแบบการวัดที่ต่างกันรวมถึงปัจจัยอื่นๆ ดังนั้นจึงวัดค่าได้แตกต่างกัน
ด้านประสิทธิภาพของผลิตภัณฑ์
- ประเภทของเครื่อง Medical Device หรือ Professional Use จะมีความแม่นยำมากกว่าประเภท Home use หรือ Body Fat Scale
- จำนวนคลื่นความถี่ไฟฟ้าที่ใช้มีความหลากหลายทั้งต่ำและสูงร่วมกัน 3-6 คลื่น (Multi Frequency) จะมีความแม่นยำมากกว่าเครื่องที่ใช้เพียง 1-2 คลื่นความถี่
- ส่วนต่างๆ ของร่างกายที่เครื่องวัดผลลัพธ์ การวัดค่าทั้งร่างกายแบบแยกส่วนแขนซ้าย-ขวา ขาซ้าย-ขวา ลำตัว โดยวัดผ่านทั้งมือและเท้าใช้อิเล็คโทรดจำนวน 8 จุด (มือ 4 จุด เท้า 4 จุด) จะทำให้วัดค่าครบทุกส่วนมากกว่าวัดค่าผ่านแค่ทางมืออย่างเดียว (Body Fat Handheld) หรือวัดค่าผ่านเท้าอย่างเดียว (Body Fat Scale) ซึ่งใช้อิเล็คโทรดจำนวน 4 จุด
ด้านหลักการและเทคนิค
- องค์ประกอบของร่างกายจะแตกต่างกันไปในแต่ละวันและเวลา ดังน้ันการตรวจวัดควรกระทำในเวลาเดียวกัน โดยมีระยะห่างแต่ละครั้งประมาณ 1 สัปดาห์ หากวัดภายในวันเดียวกันแต่ต่างเวลาอาจได้ค่าไม่เท่ากันหรือวัดติดต่อกันในเวลาไล่เลี่ยกันอาจได้ค่าต่างกันเล็กน้อย ±2% ถือว่ายังยอมรับความเที่ยงตรงได้
- การสัมผัสอิเล็คโทรด หากตำแหน่งการจับไม่ครบไม่ตรงหรือมีสิ่งกีดขวางการวัดของกระแสไฟฟ้า จะทำให้ค่าที่วัดได้คลาดเคลื่อนไป การตรวจวัดผลต้องสัมผัสอิเล็คโทรดด้วยมือและเท้าเปล่า จับอิให้ถูกตำแหน่ง จับพอดีไม่หลวมจนเกินไปและยืนบนอิเล็คโทรดให้ครบทุกจุด หมั่นทำความสะอาดทั้งอิเล็คโทรดและฝ่ามือ-เท้าของผู้ที่จะทำการตรวจวัด
- ท่าทางการตรวจวัด ควรยืนกางแขนออกห่างลำตัวประมาณ 45 องศา เพื่อป้องกันช่วงท่อนแขนสัมผัสกับลำตัว ซึ่งจะทำให้กระแสไฟฟ้าไม่สามารถวัดผ่านท่อนแขนและทำให้ได้ผลการวัดที่ผิดพลาดได้ ในส่วนของขาก็เช่นเดียวจำเป็นต้องกางออกห่างจากกันเล็กน้อย
- ข้อมูลพื้นฐานที่ถูกต้อง หากกรอกข้อมูลผิดย่อมส่งผลต่อค่าที่วัดได้โดยตรง ส่วนสูงควรวัดด้วยเครื่องมือทุกครั้ง ความสูงที่เพิ่มขึ้นจะส่งผลให้วัดค่าออกมาได้คลาดเคลื่อน เช่น ส่วนสูงที่ผิดไป 5 เซนติเมตร ส่งผลถึงค่าน้ำในร่างกายคลาดเคลื่อนไปถึง 1 ลิตร
- การสอบเทียบ (Calibrate) อย่างสม่ำเสมอ เครื่องชั่งน้ำหนักจำเป็นต้องมีความพร้อมใช้การใช้งาน เพราะน้ำหนักที่ผิดไป 1 กิโลกรัม จะทำให้ค่าน้ำในร่างกายคลาดเคลื่อนไป 2 ลิตร
ด้านสภาพแวดล้อม
- สถานที่และการติดตั้งเครื่อง หากเครื่องติดตั้งบนพื้นที่ที่ไม่แข็งแรง มีความขรุขระไม่ราบเรียบหรือลื่นจะทำให้ชั่งน้ำหนักได้คลาดเคลื่อนไปและส่งผลโดยตรงต่อค่าองค์ประกอบต่างๆ หากติดตั้งบนพื้นที่ที่เหมาะสมแล้วต้องปรับระดับขาตั้งให้สมดุลตามคู่มือ หลีกเลี่ยงการติดตั้งเครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายกลางแจ้งหรือในบริเวณที่แสงแดดส่องโดยตรงเป็นเวลานาน
- การเตรียมความพร้อมก่อนการตรวจวัด หากร่างกายไม่ได้อยู่ในสภาวะที่คงที่ ค่าที่ตรวจวัดได้ก็จะผันแปรไปตามสภาพร่างกายที่วัด ณ ขณะนั้น
เตรียมความพร้อมร่างกายก่อนการตรวจวัดอย่างไร? ให้ได้ค่าที่เที่ยงตรงที่สุด
การที่จะตรวจวิเคราะห์ผลได้ค่าแม่นยำต้องควบคุมปัจจัย ดังนี้
- การรับประทานอาหารและเครื่องดื่ม
- ตรวจวัดผลหลังรับประทานอาหารประมาณ 2-3 ชั่วโมง ไม่จำเป็นต้องงดน้ำ
- หลีกเลี่ยงเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนหรือยาขับปัสสาวะก่อนวัดผล 4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์ก่อนวัดผล 24 ชั่วโมง
- เตรียมสภาพร่างกาย
- สวมเสื้อผ้าชุดที่มีน้ำหนักเบาที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ และนำเครื่องประดับหรืออุปกรณ์ต่างๆ ที่มีน้ำหนักมากออกจากร่างกายก่อน ระหว่างการตรวจวัดผลหลีกเลี่ยงการพูดคุยและเคลื่อนไหว
- หากปวดปัสสาวะควรถ่ายปัสสาวะก่อนประมาณ 30 นาที ก่อนการตรวจวัดผล
- การออกกำลังกายอย่างหนักหรืออบซาวน่าเป็นกิจกรรมที่ทำให้ร่างกายสูญเสียเหงื่อเป็นจำนวนมาก หากจะตรวจวัดผลควรตรวจหลังจากทำกิจกรรม ประมาณ 3 ชั่วโมง
ขณะที่น้ำในร่างกายไม่ปกติหรือไม่สมดุล เช่น การสูญเสียน้ำ (Dehydration) ช่วงมีประจำเดือน มีภาวะ Edema, Hemodialysis, Peritoneal Dialysis, Lipodystrophy ถ้าจำเป็นต้องตรวจวัดควรเลือกภาวะที่มีน้ำคงที่ใกล้เคียงกับคนปกติมากที่สุด เช่น ทำหลักจากออกจากเครื่อง Hemodialysis หรือหลักจากเทน้ำยา Dialysate ทิ้งไปแล้วในกรณีของ Peritoneal เป็นต้น
บุคคลกลุ่มไหน? ที่ควรเลี่ยงใช้งานเครื่องวิเคราะห์ร่างกาย
เครื่องสามารถทำการตรวจวิเคราะห์ร่างกายในบุคคลตั้งแต่ 1-99 ปี แต่กลุ่มบุคคลที่ควรเลี่ยงใช้งานเครื่องมีดังนี้
- หญิงตั้งครรภ์ เพราะน้ำหนักทารกในครรภ์จะมีผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นของผู้วัด อีกทั้งเพื่อลดความเสี่ยงที่อาจจะมีต่อทารก
- ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดใส่โลหะเหล็กในร่างกาย เพราะจะมีผลต่อน้ำหนักที่เพิ่มขึ้นหรือขัดขวางการผ่านของกระแสไฟฟ้า ส่วนเครื่องประดับโลหะที่อยู่ภายนอกร่างกายที่มีน้ำหนักไม่มากนั้น เช่น ต่างหู ไม่จำเป็นต้องถอดออกเพราะไม่ได้ส่งผลต่อน้ำหนักหรือขัดขวางกระแสไฟฟ้า
- ผู้ที่ได้รับการผ่าตัดใส่เครื่องกระตุ้นการเต้นของหัวใจ (Pacemaker หรือ Defibrillator) อุปกรณ์การปลูกถ่ายหัวใจ เพราะกระแสไฟฟ้าอ่อนๆ อาจจะรบกวนการทำงานของเครื่องได้
ผู้ที่มีร่างกายไม่ปกติ เช่น พิการ แคระแกร่น เพราะน้ำหนักที่หายไป ส่วนสูงที่ไม่สัมพันธ์กับอายุ ท่าทางและการสัมผัสอิเล็คโทรดจะมีผลต้องความเที่ยงตรงแม่นยำในการตรวจวัด
มวลแร่ธาตุในกระดูก / มวลกระดูก แสดงถึงวัดผลอย่างไร? และนำมาใช้ประโยชน์อย่างไร?
เครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายที่ใช้เทคโนโลยี BIA จะสามารถวัดค่าแร่ธาตุในกระดูก (Bone Mineral Content – BMC) ได้หรือจะเรียกว่า มวลกระดูก (Bone Mass) ก็ได้ ซึ่งแสดงถึงค่าน้ำหนักของกระดูกในหน่วยกิโลกรัม ส่วนความหนาแน่นของกระดูก (Bone Mineral Density) ที่แสดงถึงภาวะกระดูกพรุนหรือบางนั้น ต้องทำการตรวจวัดด้วยเครื่องวัดความหนาแน่นของกระดูกหรือเครื่อง DEXA อย่างไรก็ตามหากมวลกระดูกที่ตรวจวัดได้น้อยกว่าเกณฑ์ อาจแสดงถึงแนวโน้มที่จะมีภาวะกระดูกพรุนหรือบางในอนาคตได้
เครื่องวิเคราะห์องค์ประกอบร่างกายสามารถตรวจหาอายุทางชีวภาพของร่างกายได้อย่างไร?
เทคโนโลยี BIA นั้นวัดความต้านทานของเซลล์ต่างๆในร่างกาย ซึ่งอายุทางชีวภาพนั้นสามารถทราบได้จากการแปรผันตามสัดส่วนของมวลไขมัน ไขมันในช่องท้องและมวลกล้ามเนื้อ หากมีไขมันในปริมาณมาก และ/หรือมีกล้ามเนื้อน้อย อายุทางชีวภาพก็จะถูกประเมินเป็นตัวเลขอายุของร่างกายที่สูงกว่าอายุจริง
วิธีการบำรุงรักษาเครื่องวิเคราะห์ร่างกายต้องทำอย่างไร?
การบำรุงรักษาเครื่องวิเคราะห์ร่างกาย มีดังนี้
- หากภายนอกเครื่องมีสิ่งสกปรกเพียงเล็กน้อย ให้ใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆ เช็ดทำความสะอาดแล้วเช็ดตามด้วยผ้าแห้ง
- หากภายนอกเครื่องมีสิ่งสกปรกฝังแน่น ให้ใช้ครีมอเนกประสงค์ปริมาณเล็กน้อยร่วมกับผ้าในการขัดออก
- หากต้องการฆ่าเชื้อโรคบริเวณอิเล็คโทรด ให้ใช้ผ้าชุบน้ำยาฆ่าเชื้อผสมน้ำหรือแอลกอฮอล์ 70-90%
- หลีกเลี่ยงติดตั้งเครื่องในบริเวณที่มีแสงแดดจัดเป็นเวลานาน และการใช้สารเคมีรุนแรง
- การสอบเทียบความเที่ยงตรง กระทำทุกๆ 300,000 การชั่งหรือประมาณ 3 ปี โดยบริษัท